“Libertadores” เพื่อธรรมชาติและเสรีภาพ

“LEBERTADORES” Symphonic Poem for Wind Band โดย Oscar Navarro

มีอยู่วันนึง ตอนสาย ๆ หลังอาหารเช้า ปกติทั่วไปสำหรับวันทำงานก็ต้องเตรียมการสอน แต่วันนั้นผมจำได้ว่าไม่มีสอนวิชาบรรยาย แต่มีซ้อมรวมวงเครื่องลมทองเหลืองตอนบ่าย จึงมีเวลาพอสมควรนั่งฟังเพลง เรียนรู้บทเพลงใหม่ ๆ ซึ่ง ผมก็เข้าไปพบคลิปวิดีโออยู่หนึ่งคลิป ไม่ได้มีความยาวมากนัก แต่เป็นคลิปที่ของคุณ Manuel Nageli นักทรอมโบนสมัครเล่นชาวสวิส ซึ่งนำเสนอคลิปโดยมีเอกลักษณ์ของตัวเอง คือเขาใช้กล้อง GoPro ติดไว้ที่คันชักและนำเสนอโดยการบรรเลงไปพร้อมกับการบันทึกภาพ !!!! (ผมเคยลองแล้วครับ หนักมาก เล่นแทบไม่ได้ 555)

ในคลิปเป็นเพียงการบรรเลงท่วงทำนองแตรประโคมของกลุ่มทรอมโบน มีความยาวแค่ 3.26 นาที แต่ …………. เพลงเท่ห์สุด ๆ ครับ น่าสนใจ หากใครที่เป็นนักเล่นเครื่องทองเหลืองหล่ะก็จะเข้าใจความรู้สึกนี้แน่นอน เพราะทรอมโบนบรรเลงท่วงทำนองที่หนักแน่น ผสมกับการบรรเลงสนับสนุนของกลุ่มเครื่องกระทบ ตามคลิปเลยครับ

จากคลิป เป็นบทเพลงที่มีชื่อว่า “Libertadores” Symphonic Poem for Wind Band ผลงานการประพันธ์ของ Oscar Navarro นักประพันธ์ผู้มากความสามารถชาวสเปน เขาเคยได้รับรางวัล “Outstanding Award” และรางวัลอีกมากมายจาก Conservatorio Superior OscarEspla ใน Alicante ประเทศสเปน.

Libertadores ถูกประพันธ์ขึ้นสำหรับ การแข่งขันวงดุริยางค์นานาชาติครั้งที่ 39 “Vila d’Altea” โดยใช้ท่วงทำนองของ “Peoples of America” มาเป็นทำนองหลัก บทเพลงนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน

ส่วนแรก ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แม่น้ำอเมซอน และส่วนที่สองอุทิตแด่ กลุ่มผู้นำลัทธิเสรีในอเมริกาใต้ (Liberators) นำโดย Simon Bolivar และ Jose de San Martin ซึ่งสื่อโดยการบรรเลงของแตรประโคม (Fanfare)

Symphonic Poem เป็นรูปแบบการประพันธ์ชนิดหนึ่ง ที่เน้นการพรรณนาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ตามวามต้องการของผู้ประพันธ์ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นบทกวีบทหนึ่งที่ใช้เสียงดนตรีในการเล่า
บทเพลงเริ่มต้นโดยการพาผู้ฟังไปในใจกลางป่าลึกของแม่น้ำอเมซอน ที่เต็มไปด้วยลักษณะพิเศษทางภูมิศาสตร์ ชนเผ่าต่าง ๆ สัพสัตย์นานาชนิด ซึ่งนำเสนอสีสันต่าง ๆ โดยผ่านเสียงเครื่องลมไม้และเครื่องกระทบได้อย่างน่าสนใจ ในส่วนที่สอง ผู้ประพันธ์อุทิตท่อนเพลงทั้งท่อนแด่ กลุ่มผู้นำเสรีนิยม โดยแตรประโคมและท่อนเพลงเดินสวนสนาม นำโดยกลุ่มเครื่องทรัมเป็ต เฟรนซ์ฮอร์นและทรอมโบน สลับกันบรรเลงท่วงทำนอง สนับสนุนด้วยกลองสแนร์ เพื่อสร้างความระทึกใจและนำบทเพลงไปสู่จุด Climax ในส่วนท้าย